มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2526 โดย นายแพทย์บุญส่ง เลขะกุล ผู้บุกเบิกงานด้านอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของไทย และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงรับไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์
มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้รับการจดทะเบียนเป็นองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 กำหนดนโยบายในการดำเนินงานโดยคณะกรรมการ โดยได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากการบริจาคของประชาชน องค์กร และหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งหลักฐานใบเสร็จรับเงินสามารถนำไปขอลดหย่อนภาษีได้
ระยะแรกของการดำเนินงาน มุ่งเน้นไปในการทำความเข้าใจต่อสาธารณะถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยการจัดทำโครงการศึกษาธรรมชาติ ซึ่งมูลนิธิฯ ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการพาสื่อมวลชนและกลุ่มบุคคลเข้าศึกษาในพื้นที่ธรรมชาติในลักษณะการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อสร้างจิตสำนึกและสร้างความเข้าใจถึงความสำคัญและคุณค่าของป่าไม้ สัตว์ป่า และสิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกันได้จัดทำโครงการอื่นๆ อีกหลากหลาย เช่น โครงการอนุรักษ์ร่วมกับชุมชนในพื้นที่เพื่อหาทางหยุดยั้งการทำลายป่าและทรัพยากรธรรมชาติหลายแห่งในจังหวัดนครราชสีมา บริเวณรอบเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในอำเภอนาดี อำเภอท่าวังไทร อำเภอปักธงชัย เป็นต้น นอกจากนี้ได้ขยายงานโครงการไปยังพื้นที่ที่สำคัญต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติภายในประเทศ เช่น โครงการเพื่ออนุรักษ์พื้นที่ลุ่มน้ำภาคเหนือ โครงการเพื่อความสัมพันธ์ระหว่างคนกับป่าของชุมชนในภาคตะวันตก โครงการเพื่อการฟื้นฟูสภาพธรรมชาติและการกลับคืนสู่ถิ่นของสัตว์ป่าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และโครงการเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งทะเลภาคใต้
ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 จนปัจจุบัน มูลนิธิฯ ได้เล็งเห็นว่า การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติได้รับความสนใจมากขึ้นเป็นลำดับ ประกอบกับเทคโนโลยีในด้านการสื่อสารพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้การอนุรักษ์ธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ได้รับการตระหนัก ตื่นตัว และมีส่วนร่วมช่วยปกป้องและรักษาจากทุกภาคส่วน ไม่เฉพาะเพียงแต่ในประเทศ แต่มีการเชื่อมโยงกันทั่วโลก ปัจจุบันนี้มีหน่วยงาน องค์กร และบุคคลทั่วไป ที่เข้าใจและดำเนินงานร่วมกันปกป้องทรัพยากรของชาติกันอย่างกว้างขวางทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ และระดับโลก
มูลนิธิฯ ในฐานะองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหากำไร (NGO) จำเป็นต้องพัฒนารูปแบบของการดำเนินงานจากเดิมเป็นผู้รณรงค์ ผู้ให้ข้อมูล และหาแนวทางแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรธรรมชาติของไทยในรูปแบบโครงการและกิจกรรมรณรงค์อย่างหลากหลาย มาเป็นการดำเนินงานฟื้นฟูระบบธรรมชาติโดยปฏิบัติการในพื้นที่ที่สามารถควบคุมได้ ซึ่งขณะนี้มูลนิธิฯ กำลังดำเนินงานฟื้นฟูระบบธรรมชาติในพื้นที่จำนวน 58 ไร่ ณ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ซึ่งมีพัฒนาการคืบหน้าไปเป็นลำดับ
มูลนิธิฯ มุ่งมั่นที่จะรักษาระบบธรรมชาติให้คงอยู่อย่างสมบูรณ์และสมดุล ภายใต้ปรัชญา “ธรรมชาติอยู่ได้ ชาติอยู่ได้” (NATURE lives NATION lives) โดยการมีส่วนร่วมในการทำงานอนุรักษ์ธรรมชาติ ทั้งในถิ่นกำเนิด (In-situ Conservation) และนอกถิ่นกำเนิด (Ex-situ Conservation) รวมถึงการมีส่วนร่วมในการนำสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์คืนสู่ธรรมชาติ มูลนิธิฯ จะสนับสนุนแนวทางในการการจัดพื้นที่เพื่อเป็นที่อยู่และขยายพันธุ์สัตว์และพืช เพื่อการอยู่รอดและอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนและเอื้อประโยชน์ระหว่าง คน ป่าไม้ และสัตว์ป่า เพื่อป้องกันการสูญพันธุ์ของสัตว์และพืชหายาก โดยเฉพาะสัตว์และพืชประจำถิ่นบางชนิด การช่วยเหลือสัตว์ป่าในกรณีฉุกเฉิน เฉพาะหน้า เช่น สัตว์ป่าที่ประสบปัญหาภัยธรรมชาติ และปัญหาจากการพัฒนาพื้นที่ที่เคยเป็นถิ่นที่อยู่ของสัตว์ป่าหรือพืชป่ามาแต่เดิม คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่มีความเชื่อมั่นว่า เป้าหมายที่จำเพาะเจาะจงมากขึ้นนี้ จะเหมาะสมกับจำนวนทุนและจำนวนบุคลากรที่มีอยู่ในปัจจุบัน ส่วนอนาคตและความสำเร็จขององค์กรนั้น ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนและความไว้วางใจที่เราจะได้รับจากทุกภาคส่วนของสังคมไทยและสังคมโลก
Wildlife Fund Thailand Under The Royal Patronage of Her Majesty The Queen (WFT) was established on October 13th, 1983 by Dr. Boonsong Lekagul, the pioneer of nature conservation movement in Thailand. The organization has been graciously accepted under the Royal Patronage of Her Majesty Queen Sirikit, The Queen Mother.
Wildlife Fund Thailand (WFT) is registered as a non-governmental organization under the category of conservation of environment and natural resources, article 7 of the Promotion and Conservation of National Environment Quality Act, B.E. 2535. Donations to WFT are tax deductible.
During the first decade, WFT focused its attention on raising conservation awareness among the media, government officials and donors, by way of conducting “Conservation Field Trip (CFT)” to national parks and wildlife sanctuaries. The experience gained from CFT, led us to the next important step, which was to organize conservation projects together with local communities in or around environmental sensitive areas with intention to create “friendly human fences” to help protect natural resources for their own livelihood and well-being.
Today the general public is well aware of the need to conserve and protect natural resources, the internet and social media make it possible for anyone interested, to be able to become “eyes & ears” of conservation movement. However, there are still major battles to be delt with, which are mega projects such as large dams, development in the natural areas which are detrimental to the biological diversity as well as the functioning natural systems. To succeed in conservation, we need to treat earth as a living super organism.
Today WFT concentrates its efforts on preserving or threatened our endangered species, and rehabilitating degraded habitats, under a motto “Nature lives, Nation lives.”
Contact :
Website : https://wildlifefund.or.th/
ที่อยู่ : 64 ซอยรามอินทรา 5 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพ 10220
จันทร์ – เสาร์ : 10:00น. – 17:00น.
โทร : 02-5522111 , 02-552 2790
Facebook : https://www.facebook.com/wildlifefundthailand.wft/
E-Mail : [email protected]
planing
สิ่งของที่ต้องการรับบริจาค :
- อาหารสัตว์มีปีก โดยเฉพาะเมล็ดทานตะวัน
- ข้าวสาร, นำ้มันพืช, อาหารกระป๋องและอาหารแห้งต่างๆ
- น้ำยาทำความสะอาดพื้น
- ผงซักฟอก
- ปุ๋ย